ปัญหาJHCISไม่สามารถเข้าได้

พบtables ดังต่่อไปนี้ในฐาน JHCISDB ของ 15244 ชำรุด
ccertificatetype
cdentalproject
cdiseaseconflictdrug
cinstitute
cinstitutetype
cstdeducation
thaitredmeddoctordetail
visitdrugdental
visitdrugdentaldiag
usertab
ceducationlevel
visitdiagappoint

คาดว่าไม่สามารถ install ตอนปรับปรุง version JHCIS ใน Windows7เครื่องนี้ได้
แก้ไขโดยลบ tablesดังกล่าวทิ้ง แล้วปรับปรุงใหม่

คำสั่งส่งออก สร้าง และนำเข้าฐานข้อมูลใน mysql ที่ผมต้องใช้บ่อยๆ

ส่งออกข้อมูลจากฐานข้อมูล xxdb
• ส่งออกฐานข้อมูล xxdb  พร้อม functions/stored procedures
  นําเข้าข้อมูลจากไฟล์ SQL เข้าสู่ฐานข้อมูล xxdb
  ไปลงที่ไฟล์ /tmp/xxdb.sql
   # mysqldump  --routines  --default-character-set=tis620  -a  -Q  -n  --add-drop-table
     -u  root  -p  provisdb  >  /tmp/xxdb.sql

• สร้างฐานข้อมูล xxdb
   #  mysqladmin  -u root  -p  create  xxdb

• นําเข้าฐานข้อมูล xxdb.sql จากไฟล์ /tmpxxdb.sql
   #  mysql  --default-character-set=utf8  -u  root  -p  xxdb  <  /tmp/xxdb.sql

MySQL :: Aggreation Function

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function

  COUNT ( column_name )	ใช้นับจำนวนแถวทั้งหมด แต่จะไม่นับค่าข้อมูลที่เป็น NULL โดยค่าที่คืนกลับมาจะเป็นชนิด int
  SUM ( column_name )	ใช้หาผลรวมของค่าข้อมูลในทุกแถว
  AVG ( column_name )	ใช้หาค่าเฉลี่ยของค่าข้อมูลในทุกแถว
  MAX ( column_name )	ใช้หาค่าสูงสุด เมื่อเทียบกับค่าข้อมูลในทุกแถว ถ้าใช้กับข้อมูลที่เป็นตัวอักษร จะแสดงผลแถวแรกสุด
  MIN ( column_name )	ใช้หาค่าต่ำสุด เมื่อเทียบกับค่าข้อมูลในทุกแถว ถ้าใช้กับข้อมูลที่เป็นตัวอักษร จะแสดงผลแถวท้ายสุด
  STDEV ( column_name )	ใช้หาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของค่าข้อมูลในทุกแถว
  STDEVP ( column_name )	ใช้หาค่าส่วนเบี่ยงเบนฐานนิยม ของค่าข้อมูลในทุกแถว
  VAR ( column_name )	ใช้หาค่าความแปรปรวน ของค่าข้อมูลในทุกแถว
  VARP ( column_name )	ใช้หาค่าความแปรปรวนฐานนิยม ของค่าข้อมูลในทุกแถว

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function
   
  • ::
   
  • COUNT ( column_name )

  function:COUNT(column_name)
  content:ใช้นับจำนวนแถวทั้งหมด แต่จะไม่นับค่าข้อมูลที่เป็น NULL โดยค่าที่คืนกลับมาจะเป็นชนิด int
  example:SELECT COUNT(id) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function
   
  • ::
   
  • SUM ( column_name )

  function:SUM(column_name)
  content:ใช้หาผลรวมของค่าข้อมูลในทุกแถว
  example:SELECT SUM(price), type FROM product GROUP BY type

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function
   
  • ::
   
  • AVG ( column_name )

  function:AVG(column_name)
  content:ใช้หาค่าเฉลี่ยของค่าข้อมูลในทุกแถว
  example:SELECT price FROM product WHERE price > AVG(price)

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function
   
  • ::
   
  • MAX ( column_name )

  function:MAX(column_name)
  content:ใช้หาค่าสูงสุด เมื่อเทียบกับค่าข้อมูลในทุกแถว ถ้าใช้กับข้อมูลที่เป็นตัวอักษร จะแสดงผลแถวแรกสุด
  example:SELECT MAX(price) FROM product

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function
   
  • ::
   
  • MIN ( column_name )

  function:MIN(column_name)
  content:ใช้หาค่าต่ำสุด เมื่อเทียบกับค่าข้อมูลในทุกแถว ถ้าใช้กับข้อมูลที่เป็นตัวอักษร จะแสดงผลแถวท้ายสุด
  example:SELECT MIN(price) FROM product

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function
   
  • ::
   
  • STDEV ( column_name )

  function:STDEV(column_name)
  content:ใช้หาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของค่าข้อมูลในทุกแถว
  example:SELECT STDEV(price) FROM product

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function
   
  • ::
   
  • STDEVP ( column_name )

  function:STDEVP(column_name)
  content:ใช้หาค่าส่วนเบี่ยงเบนฐานนิยม ของค่าข้อมูลในทุกแถว
  example:SELECT STDEVP(price) FROM product

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function
   
  • ::
   
  • VAR ( column_name )

  function:VAR(column_name)
  content:ใช้หาค่าความแปรปรวน ของค่าข้อมูลในทุกแถว
  example:SELECT VAR(price) FROM product

• • MySQL
   
  • ::
   
  • Aggreation Function
   
  • ::
   
  • VARP ( column_name )

  function:VARP(column_name)
  content:ใช้หาค่าความแปรปรวนฐานนิยม ของค่าข้อมูลในทุกแถว
  example:SELECT VARP(price) FROM product

  คัดลอกจาก :: http://code.function.in.th/mysql/aggreation-function

MySQL :: String Function

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function

  ASCII ( char )	ใช้คืนค่ารหัส ascii ของ char ที่กำหนด
  ORD ( string )	ใช้คืนค่ารหัส ascii ของ string (คือจะนำค่า ascii ของแต่ละตัวใน string มารวมกัน)
  CONV ( num, from_base, to_base )	ใช้แปลงค่า num ที่เป็นเลขฐาน from_base ให้เป็นเลขฐาน to_base
  BIN ( num )	ใช้แปลงค่า num ให้เป็นเลขฐาน 2
  OCT ( num )	ใช้แปลงค่า num ให้เป็นเลขฐาน 8
  HEX ( num )	ใช้แปลงค่า num ให้เป็นเลขฐาน 16
  CHAR ( num1, num2, ..., numN )	ใช้แปลงค่า num1, num2, ..., numN ให้เป็นข้อความ โดยเปรียบเทียบค่าจาก รหัส ascii
  CONCAT ( char1, char2, ..., charN )	ใช้นำสตริงของ char1, char2, ..., charN นำมาต่อกัน
  CONCAT_WS ( separator, char1, char2, ..., charN )	ใช้นำสตริงของ char1, char2, ..., charN นำมาต่อกัน โดยมีตัวเชื่อมแต่ละสตริงตาม separator ที่กำหนด
  LENGTH ( char )	ใช้หาค่าความยาวของ char ที่กำหนด
  OCTET_LENGTH ( char )	ใช้หาค่าความยาวของ char ที่กำหนด
  CHAR_LENGTH ( char )	ใช้หาค่าความยาวของ char ที่กำหนด
  CHARACTER_LENGTH ( char )	ใช้หาค่าความยาวของ char ที่กำหนด
  LOCATE ( word, sentence )	ใช้คืนค่าตำแหน่งแรกที่พบค่าของ word ภายใน sentence โดยค้นหาจากซ้ายไปขวา
  LOCATE ( word, sentence, start )	ใช้คืนค่าตำแหน่งแรกที่พบค่าของ word ภายใน sentence โดยค้นหาจากซ้ายไปขวา
  POSITION ( word IN sentence )	ใช้คืนค่าตำแหน่งแรกที่พบค่าของ word ภายใน sentence โดยค้นหาจากซ้ายไปขวา
  INSTR ( sentence, word )	ใช้คืนค่าตำแหน่งแรกที่พบค่าของ word ภายใน sentence โดยค้นหาจากซ้ายไปขวา
  LPAD ( sentence, length, word )	ใช้คืนค่า sentence ที่มีขนาดจำนวนตัวอักษรเท่ากับ length
  RPAD ( sentence, length, word )	ใช้คืนค่า sentence ที่มีขนาดจำนวนตัวอักษรเท่ากับ length
  LEFT ( sentence, length )	ใช้คืนค่า sentence โดยจะตัดสตริงให้เหลือเพียงจำนวนตัวอักษร length โดยจะเริ่มนับจากทางซ้าย
  RIGHT ( sentence, length )	ใช้คืนค่า sentence โดยจะตัดสตริงให้เหลือเพียงจำนวนตัวอักษร length โดยจะเริ่มนับจากทางขวา
  SUBSTRING ( sentence, position, length )	ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดไปจำนวน length ตัวอักษร
  SUBSTRING ( sentence FROM position FOR length )	ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดไปจำนวน length ตัวอักษร
  MID ( sentence, position, length )	ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดไปจำนวน length ตัวอักษร
  SUBSTRING ( sentence, position )	ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดจนจบประโยค
  SUBSTRING ( sentence FROM position )	ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดจนจบประโยค
  SUBSTRING_INDEX ( sentence, delimeter, count )	ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยมีรูปแบบของการตัด
  LTRIM ( sentence )	ใช้ต้ดช่องว่างทางซ้ายของ sentence ออกไป
  RTRIM ( sentence )	ใช้ต้ดช่องว่างทางขวาของ sentence ออกไป
  TRIM ( sentence )	ใช้ต้ดช่องว่างทางซ้ายและทางขวาของ sentence ออกไป
  SPACE ( num )	ใช้กำหนดให้มีช่องว่างจำนวน num ตัวอักษร
  REPLACE ( sentence, word, replacement )	ใช้ค้นหาค่าของ word ภายใน sentence แล้วแทนที่ word นั้นด้วยค่า replacement
  REPEAT ( sentence, count )	ใช้คืนค่า sentence จำนวน count ครั้ง
  REVERSE ( sentence )	ใช้สลับค่าของ sentence โดยจะสลับจากหน้าไปหลัง และจากหลังไปหน้า
  INSERT ( sentence, position, length, word )	ใช้แทนที่ค่าของ word เข้าไปใน sentence ที่กำหนด
  ELT ( index, char1, char2, ..., charN )	ใช้คืนค่าของสตริง โดยถ้า index = 1 จะคืนค่า char1, ถ้า index = 2 จะคืนค่า char2, ถ้า index = N จะคืนค่า charN
  FIELD ( word, char1, char2, ..., charN )	ใช้คืนค่าของ ตำแหน่ง โดยถ้า word = char1 จะคืนค่า 1, ถ้า word = char2 จะคืนค่า 2, ถ้า word = charN จะคืนค่า N
  FIELD_IN_SET ( word, list )	ใช้คืนค่าว่า word เป็นค่าข้อมูลที่เท่าใดภายใน list
  LCASE ( sentence )	ใช้แปลงค่าตัวอักษรภายใน sentence ให้เป็น ตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด
  LOWER ( sentence )	ใช้แปลงค่าตัวอักษรภายใน sentence ให้เป็น ตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด
  UCASE ( sentence )	ใช้แปลงค่าตัวอักษรภายใน sentence ให้เป็น ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
  UPPER ( sentence )	ใช้แปลงค่าตัวอักษรภายใน sentence ให้เป็น ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
  LOAD_FILE ( filename )	ใช้อ่านข้อมูลที่อยู่ใน filename ที่กำหนด

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • ASCII ( char )

  function:ASCII(char)
  content:ใช้คืนค่ารหัส ascii ของ char ที่กำหนด
  example:SELECT ASCII('A')

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • ORD ( string )

  function:ORD(string)
  content:ใช้คืนค่ารหัส ascii ของ string (คือจะนำค่า ascii ของแต่ละตัวใน string มารวมกัน)
  example:SELECT ORD('Function')

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • CONV ( num, from_base, to_base )

  function:CONV(num,from_base,to_base)
  content:ใช้แปลงค่า num ที่เป็นเลขฐาน from_base ให้เป็นเลขฐาน to_base
  example:SELECT CONV('6E', 16, 10)

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • BIN ( num )

  function:BIN(num)
  content:ใช้แปลงค่า num ให้เป็นเลขฐาน 2
  example:SELECT BIN(12)

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • OCT ( num )

  function:OCT(num)
  content:ใช้แปลงค่า num ให้เป็นเลขฐาน 8
  example:SELECT OCT(12)

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • HEX ( num )

  function:HEX(num)
  content:ใช้แปลงค่า num ให้เป็นเลขฐาน 16
  example:SELECT HEX(255)

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • CHAR ( num1, num2, ..., numN )

  function:CHAR(num1,num2,...,numN)
  content:ใช้แปลงค่า num1, num2, ..., numN ให้เป็นข้อความ โดยเปรียบเทียบค่าจาก รหัส ascii
  example:SELECT CHAR(77,121,83,81,76)

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • CONCAT ( char1, char2, ..., charN )

  function:CONCAT(char1,char2,...,charN)
  content:ใช้นำสตริงของ char1, char2, ..., charN นำมาต่อกัน
  example:SELECT CONCAT('My','SQL')

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • CONCAT_WS ( separator, char1, char2, ..., charN )

  function:CONCAT_WS(separator,char1,char2,...,charN)
  content:ใช้นำสตริงของ char1, char2, ..., charN นำมาต่อกัน
  โดยมีตัวเชื่อมแต่ละสตริงตาม separator ที่กำหนด
  example:SELECT CONCAT_WS(',','firstname','lastname','address')

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • LENGTH ( char )

  function:LENGTH(char)
  content:ใช้หาค่าความยาวของ char ที่กำหนด
  example:SELECT LENGTH(firstname) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • OCTET_LENGTH ( char )

  function:OCTET_LENGTH(char)
  content:ใช้หาค่าความยาวของ char ที่กำหนด
  example:SELECT OCTET_LENGTH(firstname) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • CHAR_LENGTH ( char )

  function:CHAR_LENGTH(char)
  content:ใช้หาค่าความยาวของ char ที่กำหนด
  example:SELECT CHAR_LENGTH(firstname) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • CHARACTER_LENGTH ( char )

  function:CHARACTER_LENGTH(char)
  content:ใช้หาค่าความยาวของ char ที่กำหนด
  example:SELECT CHARACTER_LENGTH(firstname) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • LOCATE ( word, sentence )

  function:LOCATE(word,sentence)
  content:ใช้คืนค่าตำแหน่งแรกที่พบค่าของ word ภายใน sentence โดยค้นหาจากซ้ายไปขวา
  example:SELECT LOCATE('Mr.',name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • LOCATE ( word, sentence, start )

  function:LOCATE(word,sentence,start)
  content:ใช้คืนค่าตำแหน่งแรกที่พบค่าของ word ภายใน sentence โดยค้นหาจากซ้ายไปขวา
  โดยเริ่มต้นค้นหาจากตำแหน่ง start ที่กำหนด
  example:SELECT LOCATE('Mr.',name,5) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • POSITION ( word IN sentence )

  function:POSITION(word IN sentence)
  content:ใช้คืนค่าตำแหน่งแรกที่พบค่าของ word ภายใน sentence โดยค้นหาจากซ้ายไปขวา
  example:SELECT POSITION('Mr.' IN name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • INSTR ( sentence, word )

  function:INSTR(sentence,word)
  content:ใช้คืนค่าตำแหน่งแรกที่พบค่าของ word ภายใน sentence โดยค้นหาจากซ้ายไปขวา
  example:SELECT INSTR(name,'Mr.') FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • LPAD ( sentence, length, word )

  function:LPAD(sentence,length,word)
  content:ใช้คืนค่า sentence ที่มีขนาดจำนวนตัวอักษรเท่ากับ length
  โดยถ้ามีน้อยกว่าก็จะเพิ่มค่าของ word เข้าไปทางซ้ายจนกว่า sentence จะมีจำนวนตัวอักษรเท่ากับ length
  example:SELECT LPAD(id,9,'0') FROM orders

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • RPAD ( sentence, length, word )

  function:RPAD(sentence,length,word)
  content:ใช้คืนค่า sentence ที่มีขนาดจำนวนตัวอักษรเท่ากับ length
  โดยถ้ามีน้อยกว่าก็จะเพิ่มค่าของ word เข้าไปทางขวาจนกว่า sentence จะมีจำนวนตัวอักษรเท่ากับ length
  example:SELECT RPAD(id,9,'0') FROM orders

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • LEFT ( sentence, length )

  function:LEFT(sentence,length)
  content:ใช้คืนค่า sentence โดยจะตัดสตริงให้เหลือเพียงจำนวนตัวอักษร length
  โดยจะเริ่มนับจากทางซ้าย
  example:SELECT LEFT(name,10) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • RIGHT ( sentence, length )

  function:RIGHT(sentence,length)
  content:ใช้คืนค่า sentence โดยจะตัดสตริงให้เหลือเพียงจำนวนตัวอักษร length
  โดยจะเริ่มนับจากทางขวา
  example:SELECT RIGHT(name,10) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • SUBSTRING ( sentence, position, length )

  function:SUBSTRING(sentence,position,length)
  content:ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดไปจำนวน length ตัวอักษร
  example:SELECT SUBSTRING(name,3,10) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • SUBSTRING ( sentence FROM position FOR length )

  function:SUBSTRING(sentence FROM position FOR length)
  content:ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดไปจำนวน length ตัวอักษร
  example:SELECT SUBSTRING(name FROM 3 FOR 10) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • MID ( sentence, position, length )

  function:MID(sentence,position,length)
  content:ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดไปจำนวน length ตัวอักษร
  example:SELECT MID(name,3,10) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • SUBSTRING ( sentence, position )

  function:SUBSTRING(sentence,position)
  content:ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดจนจบประโยค
  example:SELECT SUBSTRING(name,3) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • SUBSTRING ( sentence FROM position )

  function:SUBSTRING(sentence FROM position)
  content:ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยจะเริ่มตัดจากตำแหน่ง position และตัดจนจบประโยค
  example:SELECT SUBSTRING(name FROM 3) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • SUBSTRING_INDEX ( sentence, delimeter, count )

  function:SUBSTRING_INDEX(sentence,delimeter,count)
  content:ใช้ตัดสตริงของ sentence โดยมีรูปแบบของการตัด คือ
  นับจำนวน delimeter ใน sentence จำนวน count ครั้ง
  โดยถ้า count เป็นค่าบวกจะเริ่มนับจากทางซ้าย
  แต่ถ้า count เป็นค่าลบจะเริ่มนับจากทางขวา
  ซึ่งเมื่อนับ delimeter ไปจำนวน count ครั้งแล้วก็จะตัดสตริงนั้นออกมา
  example:SELECT SUBSTRING_INDEX('www.function.in.th','.',3)

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • LTRIM ( sentence )

  function:LTRIM(sentence)
  content:ใช้ต้ดช่องว่างทางซ้ายของ sentence ออกไป
  example:SELECT LTRIM(name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • RTRIM ( sentence )

  function:RTRIM(sentence)
  content:ใช้ต้ดช่องว่างทางขวาของ sentence ออกไป
  example:SELECT RTRIM(name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • TRIM ( sentence )

  function:TRIM(sentence)
  content:ใช้ต้ดช่องว่างทางซ้ายและทางขวาของ sentence ออกไป
  example:SELECT TRIM(name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • SPACE ( num )

  function:SPACE(num)
  content:ใช้กำหนดให้มีช่องว่างจำนวน num ตัวอักษร
  example:SELECT firstname + SPACE(2) + lastname FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • REPLACE ( sentence, word, replacement )

  function:REPLACE(sentence,word,replacement)
  content:ใช้ค้นหาค่าของ word ภายใน sentence แล้วแทนที่ word นั้นด้วยค่า replacement
  example:SELECT REPLACE(name,'Mr.','นาย ') FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • REPEAT ( sentence, count )

  function:REPEAT(sentence,count)
  content:ใช้คืนค่า sentence จำนวน count ครั้ง
  example:SELECT REPEAT('www.function.in.th',3)

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • REVERSE ( sentence )

  function:REVERSE(sentence)
  content:ใช้สลับค่าของ sentence โดยจะสลับจากหน้าไปหลัง และจากหลังไปหน้า
  example:SELECT REVERSE(name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • INSERT ( sentence, position, length, word )

  function:INSERT(sentence,position,length,word)
  content:ใช้แทนที่ค่าของ word เข้าไปใน sentence ที่กำหนด 
  โดยจะเริ่มแทนที่จากตำแหน่ง position ที่กำหนดไปจำนวน length ที่กำหนด
  example:SELECT INSERT(name,1,4,'นาย ') FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • ELT ( index, char1, char2, ..., charN )

  function:ELT(index,char1,char2,...,charN)
  content:ใช้คืนค่าของสตริง โดยถ้า index = 1 จะคืนค่า char1, ถ้า index = 2 จะคืนค่า char2,
  ถ้า index = N จะคืนค่า charN
  example:SELECT ELT(2,'www','function','in.th')

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • FIELD ( word, char1, char2, ..., charN )

  function:FIELD(word,char1,char2,...,charN)
  content:ใช้คืนค่าของ ตำแหน่ง โดยถ้า word = char1 จะคืนค่า 1, ถ้า word = char2 จะคืนค่า 2,
  ถ้า word = charN จะคืนค่า N
  example:SELECT FIELD('function','www','function','in.th')

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • FIELD_IN_SET ( word, list )

  function:FIELD_IN_SET(word,list)
  content:ใช้คืนค่าว่า word เป็นค่าข้อมูลที่เท่าใดภายใน list
  example:SELECT FIELD_IN_SET('function','www,function,in,th')

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • LCASE ( sentence )

  function:LCASE(sentence)
  content:ใช้แปลงค่าตัวอักษรภายใน sentence ให้เป็น ตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด
  example:SELECT LCASE(name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • LOWER ( sentence )

  function:LOWER(sentence)
  content:ใช้แปลงค่าตัวอักษรภายใน sentence ให้เป็น ตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด
  example:SELECT LOWER(name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • UCASE ( sentence )

  function:UCASE(sentence)
  content:ใช้แปลงค่าตัวอักษรภายใน sentence ให้เป็น ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
  example:SELECT UCASE(name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • UPPER ( sentence )

  function:UPPER(sentence)
  content:ใช้แปลงค่าตัวอักษรภายใน sentence ให้เป็น ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
  example:SELECT UPPER(name) FROM person

• • MySQL
   
  • ::
   
  • String Function
   
  • ::
   
  • LOAD_FILE ( filename )

  function:LOAD_FILE(filename)
  content:ใช้อ่านข้อมูลที่อยู่ใน filename ที่กำหนด
  example:SELECT LOAD_FILE('/tmp/detail')

  คัดลอกจาก :: http://code.function.in.th/mysql/string-function